พานั่งรถไฟลอยน้ำขบวนพิเศษ
เขื่อนป่าสักฯ สัมผัสลมหนาวเที่ยวเเรก
เสาร์ที่ 5 พ.ย. นี้
ฤดูกาลท่องเที่ยวกลับมาอีกครั้ง กับขบวนรถพิเศษนำเที่ยวเส้นทางกรุงเทพฯ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ Heng168 บอกเลยว่าเป็นขบวนรถไฟลอยน้ำอันซีนหนึ่งเดียวของเมืองไทย 1 ปีมีครั้งเดียว ห้ามพลาดเด็ดขาด!
ขอเชิญชวนประชาชน และนักท่องเที่ยว ร่วมเดินทางสัมผัสลมหนาวเส้นทางอันซีนหนึ่งเดียวของเมืองไทย นั่งรถไฟลอยน้ำสุดโรแมนติก กลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยได้จัดขบวนรถพิเศษนำเที่ยว เส้นทางกรุงเทพ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – กรุงเทพ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ระหว่างเดือน พ.ย.65 – ม.ค.66 โดยเปิดให้บริการเที่ยวแรก 5 พ.ย.นี้ และเริ่มจำหน่ายตั๋วโดยสารพร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.65
สำหรับขบวนรถไฟลอยน้ำเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่มีชื่อเสี่ยง และได้รับควาามนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวจะได้นั่งรถไฟเส้นทางพิเศษชิล ๆ เเละยังได้สัมผัสกับธรรมชาติ ลมเย็น ๆ ในช่วงปลายปี ซึ่งเป็นชีซั่นที่เหมาะกับการท่องเที่ยวที่สุดเเสนจะพิเศษ
จากข้อมูล เฟซบุ๊ก ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ประกาศเปิดให้จองตั๋วรถไฟเส้นทางพิเศษตั้งเเต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 08.30 น. โดยสามารถจองตั๋วได้พร้อมกันทุกช่องทาง และจะเปิดให้บริการตั้งเเต่วันที่ 5 พ.ย.65- 29 ม.ค. 66 โดยจะเปิดให้บริการเพียงวันเสาร์ เเละวันอาทิตย์ ตลอดเดือนพฤศจิกายน 2565 - มกราคม 2566 รวม 24 วัน ประกอบด้วย
วันที่ 5-6, 12-13, 19-20 และ 26-27 พฤศจิกายน 2565
วันที่ 3-4, 10-11, 17-18 และ 24-25 ธันวาคม 2565
วันที่ 7-8, 14-15, 21-22 และ 28-29 มกราคม 2566
โดยตารางเวลาเดินรถไฟลอยน้ำ ขบวนรถไฟเที่ยวไป (ขบวนที่ 921) เวลา 06.00 น. ซึ่งขบวนรถไฟออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และหยุดรับ-ส่งผู้โดยสารตามสถานีต่าง ๆ คือ สถานีสามเสน ชุมทางบางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง รังสิต อยุธยา สระบุรี และชุมทางแก่งคอย คือจุดชมวิว “รถไฟลอยน้ำ” กลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และรถไฟจะหยุดกลางสันเขื่อน ให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำความสวยงามประมาณ 20 นาที
และเดินทางไปที่สถานีโคกสลุง มีเวลาให้นักท่องเที่ยวชิม ช้อป สินค้าพื้นเมือง OTOP ประมาณ 30 นาที ในเวลา 10.35 น.นักท่องเที่ยวมาถึงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะกินอาหารกลางวันจากร้านค้าของกลุ่มชุมชนท้องถิ่น หรือท่องเที่ยวรอบนอกตัวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยใช้บริการรถตู้ อัตราค่าบริการท่านละ 70 บาท ตลอดเส้นทาง ที่จะนำชมสถานที่ท่องเที่ยวทุ่งทานตะวัน ณ บ้านกล้วย & ไข่ ชมสวนเฟิร์นยักษ์ และถ่ายรูปกับบรรยากาศสไตล์ชิค ๆ ที่จุดชุมวิว ณ ไร่ทรัพย์ประยูร
จากนั้นเป็นขบวนรถไฟเที่ยวกลับ (ขบวนที่ 926) เวลา 15.30 น. ออกจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และหยุดรับ-ส่งผู้โดยสารตามสถานีต่าง ๆ คือ สถานีชุมทางแก่งคอย สระบุรี อยุธยา รังสิต ดอนเมือง หลักสี่ บางเขน ชุมทางบางซื่อ และสามเสน เวลา 18.50 น. ถึงสถานีกรุงเทพ
สำหรับรถไฟขนวนพิเศษขบวนนี้ไม่ได้เปิดให้บริการตลอดทั้งปี ในหนึ่งปีจะเปิดให้บริการเพียงครั้งเดียว จะอยู่ราว ๆ ปลายปี ในช่วงฤดูหนาว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสลมเย็น ๆ ชมทัศนียภาพของน้ำเต็มเขื่อนสุดลูกหูลูกตา และนี่คือเสน่ห์ของรถไฟลอยน้ำที่ใครก็อยากมาเห็น มาสัมผัสด้วยตัวเอง
โดยอัตราค่าบริการรถไฟลอยน้ำจะเเบ่งราคาตามประเภทของรถไฟที่ให้บริการ ดังนี้
รถธรรมดา
เส้นทางกรุงเทพ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (ไป-กลับ) ราคา 330 บาท
เส้นทางสระบุรี/แก่งคอย-โคกสลุง (ไป-กลับ) ราคา 130 บาท
เส้นทางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-กรุงเทพ (เฉพาะเที่ยวกลับ) ราคา 150 บาท
รถปรับอากาศ
เส้นทางกรุงเทพ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (ไป-กลับ) ราคา 560 บาท
เส้นทางสระบุรี/แก่งคอย-โคกสลุง (ไป-กลับ) ราคา 260 บาท
เส้นทางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-กรุงเทพ (เฉพาะเที่ยวกลับ) ราคา 250 บาท
นอกจากนี้ ขบวนรถดังกล่าวจะไม่มีการเดินรถช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ (วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม 2565 และวันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม 2566) โดยให้บริการทั้งรถนั่งธรรมดา ชั้น 3 และรถปรับอากาศ ชั้น 2 คิดอัตราค่าโดยสารผู้ใหญ่และเด็กราคาเดียวกัน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจจองตั๋วรถไฟลอยน้ำอันซีนหนึ่งเดียวของเมืองไทย ในปี 2565-2566 นี้ สามารถ ติดต่อซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้หลากหลายช่องทาง ได้แก่
สถานีรถไฟทั่วประเทศ
Call Center 1690
เว็บไซต์ railway.co.th
ระบบ D-Ticket
นอกจากนี้ท่านใดต้องการเดินทางเป็นหมูคณะสามารถเช่าเหมาคัน โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
หากคุณเป็นนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ เเนะนำนั่งรถไฟขบวนพิเศษขบวนกรุงเทพ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – กรุงเทพ ได้ตั้งเเต่วันที่ 5 พ.ย. 65 - 29 ม.ค. 66 เป็นระยะเวลา 24 วันเท่านั้น ที่สำคัญเปิดให้บริการเพียงวันเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น หนึ่งปีมีครั้งเดียว ห้ามพลาด!!
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เฟซบุ๊ก ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย


ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น